Auschwitz ด้วยตัวเอง จาก Krakow [One day trip]
เมื่อพฤษภาคม 2019 ที่ผ่านมา เราได้มีโอกาสไปเที่ยวโปแลนด์ มีอยู่สถานที่หนึ่งที่เราอยากไปมากๆ เพราะอยากรู้ว่าความโหดร้ายที่เคยได้ดูหนังหรือฟังมานั้น จะเป็นอย่างไรในสถานที่จริง นั่นก็คือ ค่ายกักกันเอาชวิตช์ Auschwitz Concentration Camp สำหรับประวัติเราไม่พูดอะไรมาก บล็อกนี้จะเน้นเรื่องการเดินทางไป Auschwitz ด้วยตัวเอง ค่ะ
Auschwitz อยู่ที่ไหน?
ค่ายกักกันเอ้าชวิตซ์นี้อยู่ที่เมือง Oświęcim (ภาษาโปแลนด์อ่านประมาณ ออสฟีชีม แต่เยอรมันอ่านยากเลยเรียกเมืองนี้ว่า Auschwitz เอ้าชวิตซ์ แทน เหมือนหลายๆเมืองในโปแลนด์ที่เยอรมันจะเรียกชื่อใหม่เป็นเยอรมันหมด) โดยเมืองใหญ่ที่เหมาะกับการนอนก่อนออกไปค่ายที่สุดก็น่าจะเป็น Krakow (อ่านแบบโปแลนด์ คราโคฟ อ่านแบบ เยอรมัน Krakau คราเคา) โดยถ้านั่งรถบัสมาก็จะประมาณชั่วโมงครึ่งเท่านั้นเอง ค่ารถบัสขาละ 15PLN (เราคูณ9 = 135 บาท) ขึ้นจากท่ารถของคราโคฟที่อยู่ด้านหลังของสถานีรถไฟคราโคฟนั่นเอง และขากลับก็จ่ายอีก 15PLN ที่คนขับรถ // สามารถนั่งรถไฟไปได้ แต่จากสถานีรถไฟไปมิวเซียมก็ต้องต่อรถอีกค่ะ บัสเลยสะดวกกว่า
จองตั๋วเข้า Auschwitz ด้วยตัวเอง
โดยก่อนการเดินทางต้องให้จองตั๋วก่อน ผ่านเว็บ visit.auschwitz.org โดยเราเองก็จองล่วงหน้า 3 เดือนเลย เพราะรอบภาษาอังกฤษจะหมดไวค่ะ จะมีทัวร์แบบ 3.5 ชั่วโมง (60PLN = 540 บาท) กับ 6 ชั่วโมง (100PLN = 900บาท) หรือถ้าจะเข้าไปแค่ Auschwitz II (ที่เป็นที่กว้าง มีซากห้องแก๊ส, มีรางรถไฟถ้าอยากถ่ายรูป) ก็สามารถเข้าได้เลยไม่ต้องมีไกด์ค่ะ แต่ถ้าจะเข้า Auschwitz I ที่เป็นมิวเซียมจะต้องมีพาสเข้าค่ะ วันที่เราไปก็ประกาศว่าต้องมีไกด์พาเดินเท่านั้น สำหรับเรา เราเลือกแบบ 3.5ชั่วโมง จองล่วงหน้าก่อนวันไปได้ 3เดือนค่ะ (วันที่ไปอย่าลืมปริ้นท์ตั๋วที่ส่งมาในอีเมลไปด้วยนะคะ)
เอาชวิตช์ มีทั้งหมด3จุดนะคะ
1. Auschwitz I
2. Auschwitz II (หรือ Auschwitz-Birkenau)
3. Auschwitz III (หรือ Auschwitz-Monowitz)
หาตั๋วรถบัสไปเมือง Oświęcim
วันก่อนเดินทางเราก็ไปดูที่ท่ารถบัสสักหน่อย แล้วก็ซื้อตั๋วรถบัสของวันพรุ่งนี้เลยค่ะ เพราะเราตั้งใจว่าเราอยากออกแต่เช้าเผื่อเวลาหลงสักนิด ตามนิสัยกรุ๊ปเลือดเอ 555 จริงๆตั๋วรถสามารถซื้อได้จากคนขับรถเลยค่ะ แต่เราแค่เผื่อเอาไว้
***วันเดินทางไป อย่าลืมเอาของไปน้อยชิ้นที่สุดนะคะ กระเป๋าเอาเข้าได้แค่ขนาดประมาณ A4ค่ะ 30x20x10 cm
ตอนเช้าเราก็มาขึ้นรถที่ G1 (แต่ป้ายในจอในท่ารถเค้าบอกให้ไปเกทอื่น) ดีนะที่เดินไปแล้วเจอรถสีขาวเขียนป้ายOświęcim Muzeum เอาไว้เด่นหราเลยถามคนขับ สุดท้ายเลยไม่ตกรถค่ะ ถ้าจะซื้อตั๋วที่คนขายเลย ก็เตรียมเงินมาให้พอดีนะคะ เก๊ะเก็บเงินน่ารักมาก แต่หลังๆเงินทอนเริ่มหมด
หลังจากเวลาผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมง เราก็มาถึง Oświęcim แต่อย่าเพิ่งลงป้ายนี้นะคะ เราต้องลง Oświęcim Muzeum ซึ่งอยู่ห่างจากสถานีรถไฟไปอีกไกลแบบเดินเองหมดเวลาเป็นชั่วโมงแน่ค่ะ เอาเป็นว่าจ่ายรถบัสมาแล้วก็ไปให้ถึงที่นะคะ ตอนลงก็มองป้ายให้ดี ขากลับเราจะต้องขึ้นป้ายนี้ค่ะ (แต่แทบมองไม่เห็นว่าเป็นป้าย อารมณ์เกาะกลางถนน)
ด้วยความที่เราไปถึงก่อนเวลาทัวร์ เราเลยไปหาอะไรทาน แล้วพบความจริงว่า แพงมากกกก ควรพกอะไรมากินจากในเมืองเลย หลังจากเข้าห้องน้ำวนไปวนมารอเวลาเสร็จ ถึงเข้าไปได้ ลองเช็คกับเจ้าหน้าที่ก่อนก็ได้ค่ะ อย่างเราทัวร์รอบ 11:30 ก็เข้าได้ตอน 11:15 ค่ะ พอแสกนกระเป๋า เข้าไปถึงจะได้รับแจกหูฟังและเครื่องรับสัญญาณ เข้าห้องฟังวีดีโอสั้นๆเกี่ยวกับค่ายนี้ แล้วจึงออกเดินไปในค่ายค่ะ คอยตามป้าย ENGLISH ให้ดีนะคะ เพราะมีทัวร์หลายภาษาในเวลาใกล้เคียงกันค่ะ
เราเริ่มต้นตั้งแต่ทางเข้า ที่เขียนว่า ARBEIT MACHT FREI …work will set you free การทำงานจะให้อิสระ เหมือนที่เราเคยเห็นตอนไปค่าย Dachau แต่ที่ดัคเฮายังมีคนงานหลายคนที่รอดเพราะการทำงาน โดยเฉพาะพวกช่างฝีมือต่างๆ
แต่ชาวยิวเป็นล้านกลับได้รับอิสระด้วยความตายที่นี่ โดยเฉพาะใน Auschwitz II (Auschwitz-Birkenau)
ในบริเวณ Auschwitz I เป็นกลุ่มอาคารชุดแรก ที่สร้างก่อนหน้าจะนำมากักกันนักโทษแล้ว ปัจจุบันหลายตึกได้เปลี่ยนสภาพเป็นพิพิธภัณฑ์ จัดแสดงประวัติของค่ายนี้ ห้องที่เห็นเก็บผม, รองเท้า, แปรง, รูปภาพทั้งหลาย อยู่ใน Auschwitz I นี้ ระหว่างทางไกด์ก็จะเล่าไปเรื่อยๆ บางห้องเช่นห้องเก็บผม ก็จะขอไม่ให้ถ่ายภาพค่ะ การออกแบบทัวร์ ของเอาชวิตช์ นี้ค่อนข้างดีตรงที่ค่อยๆปูความรู้เราก่อนเรื่องการสร้างค่ายกักกัน จำนวนผู้ถูกคุมขัง การกระทำต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกันราวกับเขาไม่ใช่คน ปูเรื่องความมหาศาลของจำนวนผู้ที่ถูกสังหารหมู่ที่นี่ ปูเรื่องการใช้ไซคลอนบีและการทดลองต่างๆ แล้วค่อยพาเราออกไปเจอสภาพค่ายกักกันจริงๆที่ Auschwitz II
2ชั่วโมงที่ค่ายหลัก Auschwitz I ผ่านไป ไกด์ก็จะพาเราเดินออกมาแล้วให้เราขึ้นรถฟรี หน้าตาเหมือนรถเมล2ท่อน ไปยัง Auschwitz II (Auschwitz-Birkenau) ค่ะ
ใน Auschwitz II นี้ ตึกไม้ตึกหินต่างๆมาจากแรงงานของผู้ถูกจองจำในค่ายนี้ เราได้เห็นรางรถไฟ และจุดคัดแยกว่าจากที่ลงรถไฟนี้ ใครจะได้เข้าค่าย หรือใครจะเดินตรงไปสู่ห้องรมแก๊สทันที ไกด์พาเราเดินดูซากห้องรมแก๊ส แล้วก็ห้องพักต่างๆในตึก ที่ชาวยิวต้องอยู่กันอย่างแออัดและหนาวเย็น ขนาดเป็นฤดูใบไม้ผลิตอนเราไปยังประมาณ 5ºCเลยค่ะ ไม่อยากคิดว่าหน้าหนาวจะเป็นอย่างไร ตอนอยู่ที่มิวเซียมในAuschwitz I ไกด์ให้เราสังเกตวันตายของนักโทษ ว่าส่วนใหญ่จะไม่พ้นหน้าหนาวกัน ถ้ามาถึงช่วงหน้าหนาวก็มักจะอยู่ไม่ถึงสัปดาห์เลยทีเดียว
เราเองแทบไม่ได้ถ่ายรูปเท่าไหร่ค่ะ เพราะสุดท้ายพอเห็นของจริงกลับอึ้งจนไม่รู้จะถ่ายอะไร หลังจากไกด์ปล่อย เพราะครบ 3.5 ชั่วโมงแล้ว เราที่ตั้งใจจะเดินเล่นถ่ายรูป ก็รีบพาใจที่หดเหี่ยวออกจากที่นั้นค่ะ นั่งรถกลับมาตรง Auschwitz I เพื่อรอขึ้นบัสกลับเมืองค่ะ
การนั่งรถกลับ ให้กลับไปที่จุดที่เราลงรถ จะเห็นป้ายเล็กๆบอกเวลารถกลับไป Krakow
เตรียมเงิน 15 PLN ให้พร้อม แล้วรถก็จะมาค่ะ
เป็นอันจบทริปไปเอ้าชวิตซ์ด้วยตัวเองค่ะ
ก่อนไปเราแนะนำว่าลองหาหนังเกี่ยวกับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ดูสักเรื่อง อาจจะเป็นค่ายกักกันที่เอ้าชวิทซ์เองหรือค่ายอื่นที่มีไปทั่วยุโรปก็ได้ค่ะ อย่างเรื่องที่คนจิตไม่แข็งพออย่างเราดูได้ก็เรื่อง Life is beautiful กับ The Pianist แต่เรื่องไม่ใช่ที่นี่ค่ะ หรือจะลองอ่านบันทึกแอนน์ แฟรงค์ ก่อนไปก็ได้นะคะ
ถ้าสนใจเที่ยวยุโรป ลองอ่าน เที่ยวตลาดคริสต์มาสในยุโรป ด้วยไหมคะ ถ้าไปเอ้าชวิตช์ช่วงหน้าหนาว หิมะตกก็น่าสนใจไปอีกแบบ