The NEW LFC Stadium Tour (รีวิว SEP 2017)

บล็อกนี้เป็นบล็อกเก่าเมื่อปี 2017 ที่เพิ่งเปลี่ยนมาใช้ audio guide นะคะ เรียกว่า The New LFC Stadium Tour ปัจจุบันถ้าเป็นวันที่นักท่องเที่ยวเยอะ จะเป็นไกด์พาเดินไปเพื่อทำเวลาค่ะ

โดยที่เมื่อกันยา2017 เราได้มีโอกาสกลับไปลิเวอร์พูลอีกครั้งหนึ่งเพื่อดูหินของตัวเองที่เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Anfield Forever ค่ะ โครงการนี้ให้แฟนบอลจ่ายเงินซื้อก้อนหินเพื่อจะได้สลักชื่อแล้วหินก้อนนั้นก็จะเป็นส่วนหนึ่งของส่วนค่อขยายใหม่ของ Main Stand อันใหม่ค่ะ

เป็นแผ่นหินสีดำๆที่ตรงทางเดินหน้า Main Stand ค่ะ

หินมีหลายขนาดให้เลือกมาก แต่เราเลือกแบบถูกสุดค่ะ £60 T__T คิดเสียว่าเป็นการลงทุนเพื่อให้ตัวเองได้เป็นส่วนหนึ่งของสนามค่ะ

โดย Anfield Forever เฟสแรกที่เราซื้อไปนั้นปิดขายไปตั้งแต่กลางปี 2016 แล้วค่ะ เราเองก็รอจนกันยา 2017เลยทีเดียว กว่าหินของเราจะถูกวางไว้หน้าสนาม ถ้าใครสนใจเก็บเงินรอเผื่อเปิดเฟสหน้าได้เลยค่ะ ถึงตัวอยู่ไทย แต่หินของเราอยู่ที่แอนฟิลด์แล้วนะเออ 😀


นอกจากจะไปเยี่ยมดูหินของเราแล้ว เราก็ได้ไปทัวร์สนามใหม่ค่ะ เมื่อต้นปี2017เราได้มาครั้งหนึ่งแล้ว ก่อนหน้านั้นยังเป็นไกด์พูดสเก้าส์พาเดินเที่ยวอยู่ แต่ตอนต้นปีห้องแต่งตัวกับอุโมงค์นักเตะยังไม่ได้เปิดให้ดูค่ะเพราะยังทำไม่เสร็จ เลยอดดูป้าย This is Anfield ที่แปะใหม่เลย

สำหรับ NEW LFC Stadium Tour ทัวร์สนามใหม่นั้นมีความแปลกใหม่กว่าเก่าอย่างไร? สิ่งแรกเลยคือ “เปลี่ยนที่ขายตั๋ว”ค่ะ 5555 ปกติจะซื้อตั๋วกันตรงหน้าสนาม(ด้าน The Kop) เวลาเข้ามาแล้วจะเจอเลย แต่ตอนนี้ช่องนั้นได้เป็นแค่ทางขึ้นmuseumแล้ว ส่วนที่ขายตั๋วทัวร์ใหม่ย้ายมาอยู่ใต้Main Stand ค่ะ (แต่อยู่ด้านข้างติดกับ The Kop อยู่ดีค่ะ เข้ามาแอนฟิลด์เจอปู่บิลแล้วเลี้ยวซ้ายเลย) ถ้าหากจะซื้อล่วงหน้าก็ซื้อได้จากเว็บของสโมสรค่ะ

ไปตามที่วงไว้เลยจ้า

The New LFC Stadium Tour: ซื้อตั๋วกันเถอะ

พอเข้าห้องขายตั๋วมาก็ไปทางขวามือที่เป็น Stadium Tour Tickets ก่อนเลยค่ะ
ค่าทัวร์ ณ ตอนนี้[เช็คอีกรอบเมื่อJUNE2019] อยู่ที่ ผู้ใหญ่ £20/ นักเรียน £15/ เด็กต่ำกว่า16 £12 (ราคาเก่าผู้ใหญ่จะ£17)
ถ้ามีบัตรสมาชิกสโมสรลดลงไปอีก 30%ค่ะ บัตรใบเดียวลดทั้งกลุ่มคณะเลยค่ะ
ค่าทัวร์จะรวมไปถึงmuseumของสโมสรด้วยนะคะ หลังทัวร์เสร็จค่อยไปที่museumจะดีกว่าเพราะใกล้ทางออกจากทัวร์ค่ะ

ที่ขายตั๋วสำหรับ The New LFC Stadium Tour
บริเวณที่ขายตั๋วทัวร์สนามค่ะ

พอจ่ายเงินเสร็จพนักงานก็ให้ใบเสร็จไปรับ Audio Guide แล้วพนักงานก็แจ้งว่าไม่มีไกด์พาเดินค่ะ! เคว้งคว้างเลย ให้เราถือเครื่อง Audio Guide เหมือนมือถือเครื่องเล็กๆ เสียบหูฟังแล้วเดินไปเรื่อยๆ หน้าจอเป็นหน้าจอทัชสกรีนกดเลือกดูคลิปได้ แล้วก็มีกล้องไว้แสกนเป็นเทคโนโลยีARส่องไปที่รูปบ้างที่เสื้อบ้าง หน้าจอทัชสกรีนเราก็จะขึ้นคลิปที่เกี่ยวกับรูปเหล่านั้นมาให้เรากดplayค่ะ

Audio Guide มีภาษาให้เลือก 9 ภาษาค่ะ …แต่สิ่งที่ทำให้เราตกใจกว่านั้นคือ มีภาษาไทยค่ะ!!!! ไม่ใช่ประเทศที่ถูกมองข้ามอีกแล้ว ถามพนักงานว่าภาษาไทยมันโอเคไหม พนักงานบอกไม่รู้แต่คิดว่าคงได้ (เออเนอะไปถามคนอังกฤษทำไม 555)

เห็นธงชาติไทยไหมเอ่ย
ตื่นตาตื่นใจกับภาษาไทยมากค่ะ

เมื่อรับอุปกรณ์แล้ว อย่าลืมเก็บถุงใสของหูฟังดีๆนะคะ เพราะเราอาจต้องใช้มันในขั้นตอนปลายทัวร์

หลังจากรับอุปกรณ์และตรวจกระเป๋าแล้วเจ้าหน้าที่ก็จะพาเราบรีฟวิธีการใช้อีกรอบแล้วก็พาเราเดินเข้าเมนสแตนค่ะ แล้วก็บอกว่าให้เรากดตามหมายเลขที่โชว์อยู่ตามที่ต่างๆไปเรื่อย

หัวข้อในทัวร์ก็มีตามนี้ค่ะ

ความคูลของเครื่องนี้ก็คือเทคโนโลยี AR ที่ส่องไปตามรูปหรือเสื้อแล้วจะมีคลิปหรือข้อมูลโผล่มาให้ดูเพิ่มค่ะ

ระหว่างทางขึ้นเมนสแตนเราก็เห็นป้ายธงติดอยู่ตรงฝาผนังค่ะ ป้ายพวกนี้ยังใช้อยู่จริงนะคะ ช่วง match day ก็จะมาดึงเอาไปใช้กัน วันที่เราไปทัวร์เป็นวันก่อนมีนัดเยือนที่นิวคาสเซิลด้วย คิดว่าลุงๆน่าจะมาแกะเอาไป เห็นร่องรอยหมุดอยู่หลายอันเลย

ป้ายแซะเพื่อนบ้านเบาๆ ตามประสา your successful neighobour >w<

ถึงจะไม่มีไกด์นำทัวร์ ให้เราใช้แต่ audio guide แต่ก็ยังมีสต๊าฟคอยประจำตามจุดต่างๆคอยช่วยเราถ้าอยากได้รูปถ่าย มีเครื่องaudio guide สำรองไว้ถ้าเครื่องเรามีปัญหา และคอยให้เราสอบถามข้อมูลและชี้ว่าเราควรเดินไปทางไหนต่อค่ะ นอกจากนั้นก็มีป้ายตลอดเวลาว่าให้เดินไปทางไหน

อยู่บนเมนสแตนเราสามารถมองเห็นสนามบอลกูดิสันปาร์คได้ค่ะ เรามีแค่สวนสาธารณะกั้นไว้เท่านั้น มองจากนี้กูดิสันปาร์คเล็กลงถนัดตา เห็นเขาว่าหอสีน้ำเงินที่เข้าสร้างมาเพิ่มที่กูดิสันปาร์คก็เพื่อกันวิวแอนฟิลด์ที่สามารถมองเห็นได้เวลานั่งดูบอลในกูดิสันค่ะ ซึ่งเมื่อก่อนมันมองเห็นได้จริงๆนะ

ก่อนออกไปดูวิวสนามบอลก็มีบอสมาพูดทักทายก่อนด้วยค่ะ ขำที่พยายามทำให้เหมือนว่ามีบอสเดินออกมาหาจริงๆ พอพูดเสร็จก็ดึงฉากกั้นออกเปิดให้เห็นทางเดียวกันกับที่บอสเดินมาในวีดีโอ

มุมมองสนามจากด้านบนของเมนสแตน สนามดูใหญ่กว่าเก่ามากค่ะ เมนแสตนทำให้ดูสูงมาก

ความอลังการของเทคโนโลยีกล้องในเครื่องaudio guide ก็คือ ไม่ว่าจะหันกล้องไปทิศไหนก็จะเห็นบรรยากาศสนามในวันที่มีการแข่งขันเหมือนได้มาอยู่จริงๆเลยค่ะ ขนลุกมากๆ เป็นวีดีโอ 360º ที่เราชอบมากเลย  

อย่างตรงที่เรายืนอยู่หันเครื่องลงไปก็ตรงกับมุมที่สื่อนั่งพอดีค่ะ

หลังจากเราเดินวนลงมาชั้นล่างเตรียมตัวออกไปยังสนามก็จะผ่านบริเวณคอนคอร์สกลางที่ตกแต่งได้แรงบันดาลใจมาจากยุคอุตสาหกรรมและการต่อเรือค่ะ แผ่นไม้และเหล็กมาจากการรีไซเคิลของอัฒจรรย์เก่าทั้งนั้นเลยค่ะ เค้าว่าทำให้ไม่ลืมตัวตนว่าเราเคยเป็นอะไร (หลอดไฟในโซนไปเล้าจน์ก็มาจากกระจกสแตนเก่านะ) ถ้าสังเกตดีๆจะมีเส้นบนพื้นระหว่างประตูรูปนกไลเวอร์เบิร์ด2 เส้นตรงนั้นบอกเขตของสนามเก่าตั้งแต่ปี1892 จนถึงที่2014ก่อนที่จะรีโนเวทเมนสแตนใหม่ค่ะ

พูดถึงนกไลเวอร์เบิร์ด ตามที่เราเคยเขียนไปในบล็อกเมื่อหลายปีมาแล้ว (Liver Bird อ่านว่า “ไลเวอร์ เบิร์ด” ) ในทัวร์ก็มีรูปให้ดูค่ะว่าสมัยก่อนตราของเมืองที่เป็นตรานกกาน้ำนั้นเป็นยังไง

ย้ำกันอีกรอบว่าไม่ใช่ทั้งหงส์และเป็ดค่ะ

ระหว่างทัวร์ก็มีแพคเกจถ่ายรูปกับถ้วยยูเอฟ่าค่ะ รู้สึกว่าจะใบเดียว £10 แล้ว £20ได้สามรูป ถ่ายกับฉากเขียว เสร็จแล้วเค้าไปตัดต่อให้ยืนกับนักบอลได้

(2019-ตอนนี้ต้องไปถ่ายแล้วล่ะค่ะ กำลังเห่อ)

ห้องนึงที่เราเห็นถึงความแตกต่างเลยคือห้องแถลงข่าวค่ะ เมื่อก่อนเป็นห้องboot room ปรับปรุงให้เป็นห้องแถลงข่าวเล็กๆ แต่พอปรับปรุงใหม่ก็เห็นถึงความอลังการ ห้องใหญ่มาก และเนื่องจากทัวร์ใหม่นั้นให้เราเดินได้ตามสบาย เราก็เลยมีเวลาถ่ายรูปกันตามสบายเช่นกัน 5555

สำหรับห้องแต่งตัวทีมเยือน ก็จะเรียบง่ายตามระเบียบค่ะ ห้องน้ำแคบไม่อลังการเท่าของเรา ที่ล็อคเกอร์จะแขวนเสื้อไว้ เป็นเสื้อผู้เล่นเยือน11ตัวที่คาร่าเลือกค่ะ (คาร่าก็จะพูดอธิบายไป เหมือนดูรายการ monday night football เลย 5555)

หลังจากนั้นเรามาดูห้องทีมเหย้ากันค่ะ มีการตกแต่งที่อลังการ ขนาดโต๊ะที่มีรูปไว้ส่งเสื้อที่ใช้แล้วลงตะกร้าซักผ้ายังทำซะสวย ห้องนี้เราสติแตกเดินถ่ายรูปเล่นค่ะ อะไรๆใน audio guideเราก็ไม่ได้ฟังแล้ว (JUNE 2019-ที่ใส่เสื้อตรงกลางสีขาวๆตรงห้องเหมือนจะโดนเอาออกไปแล้วนะคะ ตอนเราเห็นก็ว่าเกะกะอยู่)

พอออกจากห้องทีมเหย้าก็เดินออกไปสู่สนามกันค่ะ พร้อมถ่ายรูปกับป้ายที่ดังที่สุดในปฐพีนี้ THIS IS ANFIELD สต๊าฟให้เอาว่าใครแตะป้ายไม่ถึง เราก็บอกอ้าวคล็อปป์ห้ามแตะอยู่ไม่ใช่หรอจนกว่าจะชนะอะไรสักอย่าง ลุงบอกให้เดาว่าถ้าบอสยอมให้แตะแล้วใครแตะไม่ถึง เดาว่าคูตี้ ถูกแน่นอน...ที่เหลือลุงบอกว่ามาเน่ก็แตะไม่ถึงนะ พร้อมเต้นเพลงมาเน่ๆ 555555555 (ปัจจุบัน JUNE 2019 แตะกันได้หมดแล้วนะจ้ะ ชนะถ้วยยุโรปแล้วจ้า)

พอออกไปที่สนาม ก็เจอป้ายเดิม ห้ามเดินลงสนาม ใครก็อย่าทำนะคะแอบก็อย่าเลย สนามเราเป็นหญ้าไฮบริดด้วยนะคะ หญ้าเลยสวยงามขนาดนี้ เสียดายวันที่ไปฝนตกด้วย เลยไม่ค่อยอยากยืนตรงนั้นนานเท่าไหร่ ที่นั่งตรงdugoutก็เปียกหมดเลย คลุมผ้าไว้ด้วย ดีใจที่ในที่สุดทีมเราก็มีที่นั่งอลังการเสียที สงสารบอส 555

จุดสุดท้ายของทัวร์คือเดินกลับไปที่ค็อปสแตนค่ะ ระหว่างทางก็ผ่านที่นั่งคนพิการด้วย วันที่มีบอลรถเข็นคนพิการจะจอดตามช่องเรียงเป็นตับเลย คนที่นี่ดูบอลกันจริงจังมากจริงๆ และคนแก่คนพิการที่นี่ก็ไม่มีอุปสรรคในการมาดูบอลของพวกเขาเลย

จำที่เราบอกตอนแรกได้ไหมคะ ว่าให้เก็บซองพลาสติกที่ใส่หูฟังเอาไว้ เพราะจะมีประโยชน์ตอนหลัง ตอนที่เราไปถึงเป็นตอนที่เขาตัดหญ้าสนามเสร็จพอดี เลยให้เก็บกลับบ้านได้ ซองพลาสติกเลยมีประโยชน์อย่างนี้นี่เอง แต่ถ้าไม่มีก็ไม่ต้องเสียใจไปนะคะ ที่ช็อปมีขายแบบอัดเม็ดเอาไว้ค่ะ ซื้อได้5555

เป็นอันจบทัวร์สนามค่ะ เมื่อก่อนเวลามีไกด์พาเดินจะใช้เวลาประมาณ50-60นาที แต่เราใช้ไป2ชั่วโมงเต็ม …หลังจากนั้นก็ออกไปขึ้นชั้น2เข้าไปดูมิวเซียมต่อ


สรุป The New LFC Stadium Tour

สำหรับทัวร์สนามความเห็นเราเป็นตามนี้ค่ะ

+ ไม่ต้องรอรอบทัวร์ทีละครึ่งชั่วโมงหรือชั่วโมงถัดไป หรือไม่ต้องกลัวอกหักมาที่สนามแล้วรอบเต็ม
+ ใช้เวลานานเท่าไหร่ก็ได้ (เราปาไป2ชั่วโมง จากปกติ1ชั่วโมง) ถ่ายรูปกันสนุกมาก
+ มีภาษาไทยให้ด้วย!!!

แต่
– ภาษาไทยไม่ค่อยลื่นหู
– เราชอบแบบมีคนพาเดินที่ใส่มุกตลกมาตลอดเวลา เลยดูขาดสเน่ห์ไปค่ะ ชอบสำเนียงสเก้าส์

เอาเป็นว่าโดยรวมเราว่าดีกว่าเก่าเยอะเลยแหละ คุ้มค่าทุกเพนนีแน่นอน แต่ถ้าจะให้ดี พาคนที่มีบัตรสมาชิกสโมสรไปด้วยดีที่สุด แฮ่ๆ

ขอตัดจบห้วนๆแบบนี้เลย โพสนี้รูปเยอะมากตาลาย ขอบคุณที่ตามอ่านกันค่ะ YNWA